Franky แฟรงกี้ เป็นหนึ่งในตัวละครหลักในเรื่อง One Piece และช่างต่อเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เขาเป็นไซบอร์กอายุ 36 ปีจาก Water 7 และได้รับการแนะนำในเรื่องนี้ในฐานะผู้นำของครอบครัวแฟรงกี้ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รื้อเรือ เดิมทีเขามีชื่อว่า”คัตตี้แฟลม”จนกระทั่งเขาทิ้งชื่อเดิมสำหรับชื่อเล่นตามคำขอของไอซ์เบิร์กเพื่อปกปิดตัวตนของเขา
Franky แฟรงกี้
เดิมทีแฟรงกี้และผู้ติดตามของเขาได้รับการแนะนำให้เป็นศัตรูของ Water 7 Arc กับกลุ่มหมวกฟางจนกระทั่งสถานการณ์บังคับให้พวกเขากลายเป็นพันธมิตรกัน ตามคำร้องขอของครอบครัวแฟรงกี้ แฟรงกี้ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มหมวกฟางเพื่อเติมเต็มความฝันของเขาในการสร้างและขี่เรือเทาซันด์ซันนี่ที่สามารถเดินทางรอบโลกได้ เขาเป็นสมาชิกคนที่แปดของกลุ่มหมวกฟางและเป็นคนที่เจ็ดที่เข้าร่วมกับทีมของลูฟี่
เขายังเป็นสมาชิกคนที่สองที่เป็นอดีตคู่อริ (คนแรกคือนิโค โรบิน) เขามาจาก South Blue ซึ่งเขาจากไปเมื่อ 32 ปีที่แล้วตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุสี่ขวบ ค่าหัวครั้งแรกของเขาคือ 44 ล้านเบรีหลังจากที่เขาเอาชนะฟุคุโระแห่ง CP-9 และทำสงครามกับรัฐบาลโลก ค่าหัวครั้งที่สองของเขาคือ 94 ล้านเบรีหลังจากที่เขาเอาชนะ Señor Pink แห่งกลุ่มโจรสลัดดอนกิโฆเต้
แต่รูปถ่ายไม่ใช่เขา แต่เป็นแฟรงกี้โชกุนของเขา ค่าหัวที่สามของเขามีมูลค่า 394,000,000 เบรี แต่รูปถ่ายของเขายังไม่ใช่ของเขา แต่เป็น Thousand Sunny เขาพากย์เสียงโดย Kazuki Yao ในอนิเมะเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น และโดย Patrick Seitz ในอนิเมะเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ แฟรงกี้ได้รับการแสดงเป็นครั้งแรกว่ามีผมสไตล์บัซคัต และต่อมา เขาเผยให้เห็นว่าตอนนี้ผมของเขาสามารถควบคุมได้และสามารถเปลี่ยนสไตล์ต่างๆ ได้ทันทีโดยการกดจมูกลงนานกว่าสามวินาที
ฟรงกี้มีพละกำลัง ความเร็ว และความทนทานเหนือมนุษย์ เขาสามารถว่ายน้ำได้เร็วกว่ามนุษย์ทั่วไป แขนของเขาถูกมัดด้วยโซ่เพื่อโจมตีศัตรู เขาสามารถยิงลูกไฟออกจากปากได้ การผายลมของเขาไม่เพียงช่วยให้เขาหลบหนี แต่ยังปลดปล่อยตัวเองจากโซ่ตรวนอีกด้วย เขาสามารถสร้างลูกกระสุนปืนใหญ่จากปลายแขนของเขา ขาสามารถกลิ้งได้เหมือนรถถัง เขาใช้มือเป็นปืนได้ เขายิงแสงเลเซอร์จากมือของเขา
สนับสนุนโดย : ufabet
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *